พบกันอีกครั้งเป็นประจำทุกๆ สัปดาห์ในคอลัมน์พาชิมของหนังสือพิมพ์ “บ้านเมือง” รายวัน ฉบับประจำวันศุกร์สุดท้ายของเดือนพฤศจิกายน 2550 ถ้าจะนับถอยหลังจากวันนี้ก็คงเหลืออีกแค่เพียงหนึ่งเดือนก็จะก้าวเข้าสู่ปีพุทธศักราชใหม่กันอีกครั้ง....!
กาลเวลาช่างพ้นไปรวดเร็วเสียนี่กระไร เผลอแว็บเดียวคอลัมน์ “แม่ลิ้นจี่พาชิม” ก็ครบรอบ 6 ปีไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่ถึงจะผ่านไปกี่ปีก็ตามแต่ “แม่ลิ้นจี่” ก็ยังคงมีหน้าที่ประจำ คือ คอยสรรหาความอร่อยมานำเสนอให้แฟนคอลัมน์ได้พากันไปลองชิมเหมือนเช่นเคย
เมื่อหลายวันก่อนเป็นจังหวะดีที่เพื่อนพ้องน้องพี่ในแวดวงคนทำสื่อ ได้นัดแนะกันไปกินอาหารอร่อยซึ่งก็เป็นกิจวัตรที่เคยทำกันมาอยู่เป็นประจำ แต่เพื่อให้หลีกลี้หนีความจำเจจากอาหารรสชาติเดิมๆ คราวนี้มติส่วนใหญ่ของพลพรรคเลือกที่จะพากันไปลิ้มลอง “อาหารเวียดนาม” รสอร่อยกันที่ร้าน “ญีญวน” แต่ไม่ใช่ยวนยีหรือยวนยั่ว ที่ตั้งอยู่ในย่านประชานิเวศน์ ซึ่งหลายคนต่างการันตีกันว่าอาหารเวียดนามจานเด็ดของร้านนี้เขาอร่อยขึ้นชื่อ อีกทั้งยังเป็นอาหารเพื่อสุขภาพกินได้กินดีแบบไม่ต้องกลัวอ้วน เพราะอาหารแต่ละย่างเขาจะกินควบคู่กับผักปลอดสารพิษนานาชนิด แถมสนนราคาก็ไม่แพงเหมาะสมกับยุคเศรษฐกิจพอเพียงอย่างในปัจจุบัน และเมื่อมาถึงที่นี่กันทั้งทีก็คงต้องหาข้อมูลอะไรดีๆ มาเล่าสู่กันฟังอีกตามเคย

จากการที่ได้พูดคุยกับ “คุณอิ๋ว” หรือ “คุณวราลักษณ์ โชคพระสมบัติ” สาวสวยจากจังหวัดหนองคายซึ่งเป็นเจ้าของร้าน ได้ย้อนถึงจุดเริ่มต้นของร้าน “ญีญวน” ให้ฟังว่า ที่ร้านนี้เปิดบริการอยู่ 2 แห่ง สาขาแรกนั้นเปิดบริการมานานกว่า 5 ปี อยู่ที่บางบัวทอง ส่วนสาขาที่ 2 เปิดบริการมาได้ 1 ปี อยู่ในย่านประชานิเวศน์ ตรงข้ามกับสถานีตำรวจนครบาลประชาชื่น ซึ่งที่สาขา 2 นี้จะเน้นบรรยากาศเรียบง่ายแบบครอบครัว ด้านในจะเป็นห้องแอร์คอนดิชั่น แบ่งแยกเป็นห้องจัดเลี้ยงแบบส่วนตัวอีก 2 ห้อง ส่วนด้านนอกจะเป็นบรรยากาศแบบโอเพ่นแอร์มีโต๊ะให้เลือกนั่งหลายมุมมอง

ส่วนทางด้านอาหารนั้น...เนื่องจากตนเองเกิดและเติบโตที่จังหวัดหนองคายซึ่งเป็นจังหวัดที่มีชาวเวียดนามพักอาศัยอยู่มากมาย จึงคุ้นเคยกับคนเวียดนามและอาหารเวียดนามเป็นอย่างดี ถึงขนาดเคยร่ำเรียนการทำอาหารเวียดนามต้นตำรับจนสามารถปรุงอาหารได้ไม่แพ้ชาวเวียดนาม ที่ร้านนี้จะเน้นขายอาหารเวียดนามเป็นเมนูหลัก มีอาหารให้เลือกสั่งกว่า 100 ชนิดในเมนู วัตถุดิบทุกชนิดจะปรุงแต่งเองภายในร้าน ไม่ว่าจะเป็น หมูยอ หมูย่าง กุ้งพันอ้อย เส้นก๋วยจั๊บ ฯลฯ
ซึ่งอาหารเวียดนามเกือบทุกชนิดจะต้องมีผักสดเป็นเครื่องเคียง ที่นี่จึงคำนึงและห่วงใยในสุขภาพของลูกค้าจึงเลือกใช้ผักปลอดสารพิษ “ไฮโดรโปรนิก” เช่น ผักไดโตเกียว และผักกาดหอม ซึ่งส่งตรงมาจากฟาร์มบางปะกง อาหารทุกจานอร่อยได้โดยปราศจากผงชูรส ที่สำคัญสนนราคาก็ไม่แพง เริ่มต้นที่จานละ 40-160 บาท และอาหารจานแรกที่จะแนะนำให้ลองสั่งมาชิมลิ้มลองในวันนี้ก็มี
แหนมเนือง... เป็นเมนูสุดฮ็อทของคนไทยที่อิ่มเอมกันได้แบบไม่ต้องกลัวน้ำหนักเพิ่ม ในหนึ่งชุดจะมีทั้ง หมูย่าง สับปะรด กล้วยดิบ มะม่วงดิบ กระเทียม แตงกวา พริกขี้หนู ที่หั่นมาเป็นชิ้นเล็กพอคำ และเส้นขนมจีน ตักทุกอย่างใส่แผ่นแป้งเนื้อนุ่มเนียน หยอดน้ำจิ้มรสเปรี้ยว เค็ม หวาน ห่อแป้งให้มิดชิดหยิบเข้าปากเคี้ยวกินได้เพลิดเพลิน ตามด้วยผักสดนานาชนิดที่เสิร์ฟมาเป็นตะกร้าใหญ่ ความอร่อยอยู่ที่หมูย่างรสนุ่มละมุนลิ้นไร้ซึ่งกลิ่นสาบ บวกกับน้ำจิ้มรสเด็ด เสิร์ฟมาเป็นชุดในราคา 99 บาท สั่งผักเพิ่มจ่ายอีก 15 บาท
ปากหม้อญวน... เมนูจานนี้ก็อร่อยไม่แพ้กัน โดยเขาจะนำแป้งผสมน้ำทาบนผ้าขาวบางที่ขึงตรึงบนปากหม้อปิดฝาครอบไว้ รอให้ไอน้ำร้อนจากด้านล่างพ่นผ่านจนเนื้อแป้งสุกขาวนวล ใส่เนื้อหมูสับปรุงรสที่รวนมาจนสุกร่วนลงไปบนแผ่นแป้ง พับม้วนเป็นท่อนกลมยาวโรยหน้าด้วยหอมแดงเจียวเสิร์ฟพร้อมหมูยอหั่นและน้ำจิ้ม ความอร่อยอยู่ที่เนื้อแป้งนุ่มเนียนด้านนอก บวกกับเนื้อหมูสับปรุงออกเค็มนิดๆ ติดปลายลิ้น ใช้ช้อนตักแค่พอคำราดน้ำจิ้มเคี้ยวกินพร้อมหมูยอและผักสดอร่อยอย่าบอกใคร ในราคาจานละ 70 บาท
กุ้งพันอ้อย... เขาจะใช้เนื้อกุ้งสดบดละเอียดคลุกเคล้าด้วยเครื่องปรุง ปั้นเป็นก้อนโดยมีอ้อยเป็นแกนกลาง ก่อนนำไปทอดจนสุกเหลือง เสิร์ฟพร้อมเส้นหมี่ขาวโรยหน้าด้วยหอมแดงเจียว เคียงข้างด้วยน้ำจิ้มผสมแครอทหั่นฝอย รสเปรี้ยว เค็ม หวาน ความอร่อยอยู่ที่เนื้อกุ้งบดที่นวดมาจนเหนียวนุ่ม บวกกับน้ำจิ้มรสเด็ดที่มีส่วนผสมของน้ำมะพร้าวอ่อน ในราคาจานละ 75 บาท

ก๋วยจั๊บญวน... ลองสั่งเมนูนี้มาซดน้ำกันดูบ้าง เขาจะใส่เส้นก๋วยจั๊บทำเองลวกสุก หน้าตาจะละม้ายคล้ายเส้นอุด้งของญี่ปุ่น ใส่กระดูกหมูอ่อน หมูยอ เห็ดหอม โรยหน้าด้วยหอมแดงเจียว และผักชีฝรั่งหั่นฝอยใส่ชามเสิร์ฟมาร้อนๆ ความอร่อยอยู่ที่เส้นก๋วยจั๊บกลมแน่นเหนียวนุ่ม และกระดูกอ่อนหมูเคี้ยวได้กรุบกรุบสนุกปาก บวกกับน้ำซุปที่ต้มเคี่ยวจนกลมกล่อมซดได้คล่องคอ ในราคาชามละ 50 บาท
ฟองดู...เมนูจานนี้ต้องลองดู... หน้าตาคุ้นๆ เหมือนจิ้มจุ่มของบ้านเรา เขาจะเสิร์ฟวัตถุดิบมาในถาดหลุมมีทั้ง กระเทียมหั่นฝอย กล้วยดิบหั่น ตะไคร้ซอย สัปปะรด และเส้นหมี่ขาว ของสดก็มี กุ้ง เนื้อปลา เนื้อหมู และปลาหมึก เสิร์ฟมาพร้อมน้ำซุปในหม้อไฟเดือดพล่าน และผักสดนานาชนิด ตักทุกอย่างใส่ลงในหม้อรอให้สุกแล้วค่อยกิน เมื่อทุกอย่างผสมผสานจนได้ที่ผลที่ได้ก็คือความอร่อยและกลมกล่อม ตักแบ่งใส่ถ้วยเหยาะน้ำจิ้มรสจัดจ้านลงไปนิดแล้วจะติดใจ ในราคาชุดละ 160 บาท

กล้วยหอมทอด... ลองมาชิมขนมหวานหันดูบ้าง เขาจะนำกล้วยหอมสุกคลุกด้วยแป้งนำไปทอดจนกรอบนอกนิ่มใน ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมันใส่จานโรยด้วยไอซ์ซิ่ง เสิร์ฟพร้อมน้ำผึ้งป่าที่หาได้ปีละครั้ง ความอร่อยอยู่ที่กล้วยหอมสุกนุ่มนิ่มด้านในและแป้งที่ห่อหุ้มด้านนอก ที่เด็ดขาดก็คือเขาจะใช้น้ำผึ้งป่าแท้รสหวานซาบซ่าแทนคาราเมล สั่งมาชิมกันได้ ในราคาจานละ 45 บาท ถ้าเพิ่มไอศกรีมก็ราคา 60 บาท
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายชนิดที่น่าลิ้มลอง เช่น ปอเปี๊ยะกุ้งสด, เส้นหมี่หมูย่าง, หมูยอนึ่ง-ทอด, ขนมเบื้องญวน น้ำตะไคร้ น้ำกระเจี๊ยบ ฯลฯ และในช่วงกลางวันยังมีอาหารจานด่วนจานเดียวไว้บริการในราคาประหยัด เช่น ก๋วยเตี๋ยวญวน ถูกปากถูกใจอาหารแบบไหนก็ขอเชิญเลือกสั่งกันเองได้ในเมนู
ที่ร้านนี้จะเปิดบริการกันทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น. สถานที่ตั้งของร้านถ้ามาจากถนนวิภาวดีรังสิต เลี้ยวเข้ามาทางวัดเสมียนนารี (ถนนเทศบาลสงเคราะห์) ถึงแยกไฟแดงเลี้ยวขวาผ่านท็อบส์ซูเปอร์มาร์เก็ต ถึงทางแยกหน้า สน.ประชาชื่น เลี้ยวขวาจะเห็นร้าน “ญีญวน” สาขา 2 อยู่ขวามือ หรือถ้าเกรงว่าจะกันไม่เจอก็โทรมาสอบถามเส้นทางกันก่อนได้ที่ 0-2953-8116-8(สาขาประชาชื่น) และ 0-2920-4090 (สาขาบางบัวทอง)
สะดวกกันเมื่อไรก็ขอเชิญแวะเวียนไปเยี่ยมชิมกันได้ สำหรับวันนี้ต้องขอแนะนำกันแต่เพียงแค่นี้ แล้วพบกับ “แม่ลิ้นจี่พาชิม” ได้ใหม่ในสัปดาห์ต่อไปนะคะ....! (ค้นหาข้อมูลร้านอาหารย้อนหลังได้ในwww.naachim.com)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น